วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

ภาษาไทยวันละคำ ตอนที่ 1-10

ความซื่อสัตย์

     กาล ครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ ณ ชายป่า เขามีลูก 2 คนคือลูกชาย และลูกสาว ชายคนนี้เป็นชาวนาเกี่ยวข้าว ข้าวที่เกี่ยวมาต้องนำไปสีที่โรงสีซึ่งขายไม่ค่อยได้มากเท่าไร บางวันข้าวที่เกี่ยวมาก็ถูกขโมย บางเดือนก็มีพายุเข้าทำให้ข้าวเสียหายจำนวนมาก อยู่มาวันหนึ่งเขากำลังนำข้าวที่เกี่ยวได้มาสีที่โรงสี ระหว่างทางก็เห็นถุงสีขาวขนาดใหญ่ตกอยู่ริมทางด้วยความที่สงสัย เขาจึงหยิบขึ้นมาแล้วเปิดดู ทันใดนั้น!ก็ พบกับเงินและทองจำนวนมากอยู่ข้างใน ชายคนนั้นคิดว่าจะเอาเงินไปคืนกับเจ้าของหรือเก็บเงินเอาไว้เป็นของตนเพื่อ จะได้สุขสบายมีเงินทองใช้ เขาคิดอยู่นาน แต่ก็ตัดสินไม่ได้จึงกลับปรึกษาลูกๆทั้ง 2  “ผมว่าเก็บเอาไว้ดีกว่าพ่อ เราจะได้มีเงินใช้เหมือนคนอื่นซักที” ลูกชายบอก แต่ลูกสาวแย้งว่า “ทำอย่างนั้นไม่ได้นะ เราไม่รู้ว่าเป็นเงินของใครก็ไม่ควรเอามาเป็นของตน หนูว่าเอาไปประกาศตามหาเจ้าของดีกว่า” ชายคนนั้นเห็นด้วยกับลูกสาว จึงไปตามหาเจ้าของ วันแรกเขาประกาศหาเจ้าของอยู่นานก็ยังหาเจ้าของไม่ได้ วันที่ 2 ก็ยังหาเจ้าของไม่ได้ จนมาถึงวันที่ 4 ทั้ง 3 เริ่มท้อแท้ที่ต้องตามหาเจ้าของเงิน คืนนั้นเองเขาฝันว่าทำเงินที่หาได้จากการขายข้าวทั้งหมดหายไป เขาเสียใจมาก เมื่อตื่นขึ้นมา ชายคนนั้นก็เริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนที่ทำเงินหาย  เขา จึงตั้งใจตามหาเจ้าของเงินต่อไป จนกระทั้งวันหนึ่งก็พบเจ้าของเงิน ซึ่งเป็นเศรษฐีประจำหมู่บ้าน เศรษฐีรู้สึกซาบซึ้งในความซื่อสัตย์ของเขา จึงแบ่งเงินในถุงให้ครึ่งหนึ่งและสร้างบ้านใหม่ให้กับชาวนาและลูกทั้ง 2 ชาวนาตื้นตันในความมีเมตตาของเศรษฐีผู้นี้มาก จึงช่วยดูแลทำความสะอาดบ้าน  และตั้งแต่นั้นมาทั้ง 3 ก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

 นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าคนที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ย่อมประสบแต่ความสุข ความเจริญ